Kotenarok

 Amiya เป็นตัวละคร Caster 5 ดาวที่เกมให้เรามาฟรีผ่านการเล่นเนื้อเรื่อง และเป็นตัวที่ถูกบังคับอัพให้ถึง E2 ถ้าต้องการเล่นเนื้อเรื่องบทที่ 8 ตัวละครสามารถอัพ PO ได้โดยการเล่นเนื้อเรื่องเพื่อเอาตัวซ้ำมาอัพ และจะได้ร่าง Guard มาเมื่อจบเนื้อเรื่องด่าน JT8-2  ข้อดี / จุดเด่นของตัวละคร ได้ฟรีจากเนื้อเรื่อง Talent (ได้ตอนขึ้น E2) - ทุกครั้งที่โจมตีจะเด้ง SP +2 และ SP +8 เมื่อฆ่าศัตรูได้ ที่ PO6 จะเด็ง SP +3 และ SP +10 โจมตีเป็นเวทย์ สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะเพิ่มความเร็วในการโจมตี +60 หน่วย เป็นสกิลที่นิยมใช้กันมากสุดเพราะใช้งานได้ง่าย และตรงไปตรงมา สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง สกิลใช้อัตโนมัติ ที่เลเวล 7 เมื่อถูกใช้จะทำใช้ Amiya ยิงโจมตี 7 ครั้งด้วย 45% ของพลังโจมตี โจมตีใส่เป้าหมายในระยะยิงแบบสุ่ม ระยะเวลาสกิล 25 วินาที เมื่อหมดสกิลจะติด stun 10 วินาที เป็นสกิลที่ใช้ยาก เพราะสกิลออกเอง และหลอดสกิลช้ามาก ๆ ถ้าไม่ขึ้น E2 (เอา Talent) ก็ไม่น่าหยิบมาใช้ แต่ดาเมจก็จัดอยู่ว่าแรงเอาเรื่อง สกิล 3 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ บัฟ ATK +160%, Ma

 Projekt Red ตัวละคร Specialist สาย Fast-Redeploy (ลงง่ายใช้ DP น้อยแล้ว ถอนออก cooldown ต่ำ ลงรอบต่อไปได้เร็ว) ระดับ 5 ดาว ข้อดี / จุดเด่นของตัวละคร cooldown ในการลงสนามอีกรอบเพียง 18 วินาที (ปกติของพวกสาย fast-redeploy) Talent - ทำดาเมจขั้นต่ำ 30% ของพลังโจมตีที่ E2 (33% ที่ PO5) ทำให้โจมตีมอนที่มี DEF ได้ประมาณหนึ่ง ใช้แต้มในการลงสนามเพียง 9 แต้ม (ใช้ 7 ที่ PO6) สกิล 1 เป็นสกิลติดตัว ที่เลเวล 7 เมื่อลงมาในสนามจะได้รับบัฟ ATK +65% ,เพิ่มหลบหลีกกายภาพและเวทย์ 40% สกิลนี้เหมาะกับใช้เพื่อฆ่าเป้าหมายเดี่ยวที่ตัวบางระดับนึง เช่นพวกนักเวทย์ ตัวยิงไกล สกิล 2 เป็นสกิลติดตัว ที่เลเวล 7 เมื่อลงในสนามจะทำดาเมจทันที 200% ของพลังโจมตีเป็นกายภาพใส่เป้าหมายทุกตัวในระยะ ระยะสกิลเป็นเครื่องหมายบวกรอบตัว เป้าหมายที่โดนสกิลจะติด stun 2 วินาที ที่ M3 จะทำดาเมจ 250% และ stun 3 วินาที สกิลนี้เหมาะกับใช้เพื่อหยุดสกิลของมอน(พวกสกิลที่ต้องชาร์จ) หรือยื้อเวลาให้ตัว dps ฆ่ามอนได้ทัน  ข้อเสีย / จุดด้อยของตัวละคร ตัวบางมาก ๆ สกิล 1 ค่อนข้าง RNG บางครั้งหลบไม่ได้เลยก็อาจทำให้ตายก่อนเป้าหมาย พลังโจมตีอยู่ในระดับกล

 Cliffheart ตัวละคร Specialist สายดึง (hook) ระดับ 5 ดาวที่เคยแจกฟรีสำหรับมือใหม่ (ปัจจุบันยังมีอยู่มั้ยไม่ทราบ ใครมีข้อมูลฝากคอมเม้นต์ด้านล่างทีครับ)  ข้อดี / จุดเด่นของตัวละคร ระยะโจมตี 3 ช่องหน้าเมื่อขึ้น E1 ทุกสกิลจะใช้เพื่อดึงมอนเข้าหาตัวเอง มักใช้ในการดึงมอนลงหลุมในด่านที่มีหลุมให้เล่น สามารถวางในช่องตัวยิงไกลได้ (ยืนบน) Talent - เมื่อไม่ได้ block มอนจะมีบัฟ ATK, DEF +12% ทำให้เหมาะมากกับการวางช่องยืนบน สกิล 1 หลอดสกิลเด้งเอง สกิลใช้อัตโนมัติ ที่เลเวล 7 จะมีแรงดึงระดับ 1 (ดึงตัวใหญ่แทบไม่กระดิก) ทำดาเมจ 135% เป็นเวทย์ ที่ M3 จะทำดาเมจ 180% และแรงดึงเพิ่มเป็นระดับ 2 (ดึงตัวใหญ่ได้) สกิล 2 หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 แรงดึงระดับ 1 ดึงเป้าหมาย 2 ตัว ทำดาเมจ 170% เป็น True Damage (คือดาเมจที่ไม่สนพลังป้องกันใด ๆ) เป้าหมายติด stun 1.5 วินาที ใช้ SP 19 แต้ม ที่ M3 แรงดึงระดับ 2 ดึง 3 เป้าหมาย ทำดาเมจ 200% และ stun 3 วินาที ใช้ SP 15 แต้ม เคยเป็น MVP ตัวหนึ่งในด่าน CC Chernobog Broken Path Risk 18 (ด่านที่มีไฟยาว 8 เมตร) ใช้สกิลนี้ในการ stun (3 วินาที) อีกทั้งสกิลรีไวมาก ยื

 Elizabeth Pendragon (เอลิซาเบธ เพ็นดราก้อน) เค้าเตอร์สายยิงจู่โจม โจมตีได้ทั้งเป้าหมายบินและพื้นดิน เป็นตัวละครหน้าตู้แรกตอนเริ่มเปิดเกมที่มีให้เปิดฟรีทุกวัน วันละ 10 โรล จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร โจมตีธรรมดาได้เป้าหมายเดียว แต่โจมตีหนัก สกิลติดตัว - เมื่อเรียกลงสนามจะทำดาเมจเป้าหมายที่อยู่ด้านหน้าจุดที่เรียก 2 เป้าหมาย ทำดาเมจเป็น AOE หลังจากทำดาเมจแล้วจะถอยหลังออกมาจากจุดที่เรียก (ถ้าออโต้จะแทบไม่มีผล ยกเว้นโดนบุกจนถึงฐานเรา) สกิลพิเศษ (สกิลที่ตัวละครเราใช้เอง) - ทำดาเมจเป็น AoE ใส่เป้าหมายด้านหน้าหลายครั้ง เป้าหมายหวังผล 2 ตัว ระหว่างใช้สกิลจะลดดาเมจที่ได้รับลง -50% ที่เลเวล 5 เป้าหมายหวังผลเพิ่มเป็น 3 เป้าหมาย และลดดาเมจลง -80% สกิลคูลดาวน์ 22 วินาที สกิลอัลติเมท - ทำดาเมจครั้งเดียวเป็น AoE ใส่เป้าหมาย มีเป้าหมายหวังผล 3 ตัว ทำให้ติด stun 5 วินาที ที่เลเวล 5 สกิลจะติดคริ 100% สกิลคูลดาวน์ 48 วินาที เซ็ตที่แนะนำจะเน้นไปที่พลังโจมตีและความแม่นยำให้เน้นความแรงของสกิล หรือเซ็ตดาเมจคริติคอลเพื่อเสริมให้อัลติแรงขึ้น จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร ตัวบางมาก เผลอแป๊บเดียวล้ม อาจเป็นปกติของสา

 Thorns ตัวละคร Guard ตีไกลที่มาเป็นเมต้า ณ ช่วงเวลาที่เขียนบทความนี้ ทำดาเมจได้ดีและฮีลตัวเองได้ด้วย ข้อดี / จุดเด่นของตัวละคร โจมตีไกลได้ (แต่ดาเมจลดเหลือ 80% เมื่อโจมตีไกล) Talent: เป้าหมายที่ถูกโจมตีจะติดพิษ ทำดาเมจ 125 เป็นเวทย์ต่อ 1 วินาที ผลอยู่ 3 วินาที (จะแรงขึ้น 2 เท่าถ้าใช้กับเป้ามหายที่โจมตีไกล) Talent: เมื่อเขาไม่โจมตีเป็นเวลา 2 วินาที จะเด้งเลือดตัวเอง 3.5% ของ max HP ใช้ได้ดีระหว่างรอมอนเวฟถัดไป คอมโบกับสกิล 2 ได้ สกิล 2 (ไม่ค่อยเป็นที่นิยม) หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะหยุดโจมตี(ทำให้เดลือดเด้งจาก Talent) และตั้งการ์ดขึ้นมาป้องกันแทน บัฟ ATK +40%, DEF +70% เมื่อถูกโจมตีจะโจมตีกลับใส่ศัตรูในระยะสูงสุด 4 ตัว และมี cooldown การโจมตี 0.8 วินาที สกิลนี้จะเหมาะกับเวลาต้องการตัวมายืนเลนและโจมตีหมู่ในเวลาเดียวกัน สกิล 3 (สกิลหากิน) หลอดสกิลเด้งเมื่อทำการโจมตี เป็นสกิลกดใช้ ที่ M3 เมื่อกดใช้จะเพิ่มระยะโจมตี บัฟ ATK +60%, ASPD +25, โจมตีไกลไม่โดนเนิฟดาเมจอีกต่อไป ในครั้งแรกสกิลจะมีระยะเวลา 30 วินาที แต่เมื่อกดใช้ครั้งที่สองสกิลจะอยู่ตลอดไปจนจบด่านและเพิ่มบ

 Surtr ตัวละคร 6 ดาวใหม่ เป็น Guard สายเวทย์ที่ทำดาเมจได้รุนแรงที่สุดในเกม ณ เวลานี้ (แต่แลกมากับเลือดที่ลดลงเรื่อย ๆ) ข้อดี / จุดเด่นของตัวละคร โจทตีเป็นเวทย์ Talent: ไม่สนค่า RES (ป้องกันเวทย์) ของเป้าหมาย 20 แต้ม (ถ้าเป้าหมายมี 100 RES ก็คือเหลือ 80 ทันทีเมื่อโดนเธอตี) Talent: ถ้าเธอตาย จะเป็นอมตะต่ออีก 8 วินาทีก่อนออกจากสนาม สกิล 3 (สกิลหากิน) หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่ M3 เมื่อกดใช้จะเด้งเลือดเต็มหลอด, เพิ่มโจมตี +330% , เพิ่มระยะโจมตี +2 ช่อง, เพิ่ม Max HP +5000, เลือดจะลดลงเรื่อย ๆ จนกว่าจะตาย สกิลนี้ใช้ sp เพียง 5 หน่วย ลงสนามมาพักเดียวก็กดใช้สกิลได้เลย เหมาะสำหรับใช้เพื่อจัดการเป้าหมายแล้วถอนออกจากสนามไป สกิล 2 หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะเพิ่มโจมตี +80%, เพิ่มระยะโจมตี +1 ช่อง, หากเป้าหมายมีเป้าหมายเดียว จะทำดาเมจเป็น 150% ของพลังโจมตี สกิลนี้เหมาะกับการใช้เป็นตัวทำดาเมจเวทย์แบบยืนยาว ๆ ทั้งเกม ข้อเสีย / จุดด้อยของตัวละคร 6 ดาวปั้นยาก สกิล 3 ลดเลือดตัวเองจนตาย ทำให้ต้องถอดออกจากสนามหลังฆ่าเป้าหมายได้แล้ว เมื่อลงสนามใหม่เรื่อย ๆ ค่า DP ที่ใช้ก็เ

 Ceobe หรือเคียวเบะ Caster โจมตีเดี่ยวที่รุนแรงมาก เหมาะกับไว้สู้กับตัวที่มีค่า DEF สูง โดยเฉพาะบอส ข้อดี / จุดเด่นของตัวละคร Talent 1 - Thresher: ทุกกการโจมตีจะทำดาเมจเวทย์เพิ่มอีก 40% ของ DEF เป้าหมาย Talent 2 - Lone Journey: เมื่อไม่มีตัวละครอื่นอยู่ใกล้ ๆ เลย (บน ล่าง ซ้าย ขวา) จะได้บัฟ ATK +8% และ ASPD +8 สกิล 1 (ไม่นิยม) หลอดสกิลเด้งเอง สกิลใช้เองอัตโนมัติ ที่เลเวล 7 เพิ่มพลังโจมตีให้กับการโจมตีครั้งถัดไป 180% จะเล็งเป้าหมายที่ไม่ถูกบล็อคก่อน แช่แข็งเป้าหมายไว้ 2.5 วินาที สามารถเก็บชารน์จได้ 2 ชาร์จ สกิล 2 (ควรอัพอย่างมาก) หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่ M3 เมื่อกดใช้สกิลจะทำให้โจมตีเร็วขึ้นมาก(ยิงรัวเป็นปืนกลเลย) สกิลจะเล็งเป้าหมายที่มีค่า DEF สูงที่สุด สกิลนี้เรียกได้ว่าเป็นสกิลล้มบอสเลยก็ว่าได้ สกิลอยู่เป็นระยะเวลา 40 วินาที สกิล 3 หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะเพิ่มระยะโจมตีนิดหน่อย เพิ่มพลังโจมตี +160% แต่จะเปลี่ยนเป็นทำดาเมจกายภาพแทน เล็งเป้าหมายที่มีค่า DEF ต่ำที่สุด และไบ้เป้าหมายเป็นเวลา 3 วินาที สกิลอยู่เป็นระยะเวลา 57 วินาที ข้อเสีย / จุดด้อยขอ

  Home Sweet Home : Survive เป็นเกม spinoff จากเกมบ้านหวาน Home Sweet Home แต่มาในแนว 4 v 1 แบบ Dead by Daylight โดยมีทั้งฝั่งผู้รอดชีวิต (Survivor) และฝั่งผี (Specter) เกมพัฒนาโดย  YGGDrazil Group Co.,LTD   ณ เวลาที่เขียนบทความนี้เกมยังเป็น early access เพราะงั้นยังมีทั้งบั๊กและความไม่บาลานซ์ของเกมอยู่พอสมควร แต่ก็จะรีวิวแบบตรงไปตรงมาตามที่ได้เล่นมาก่อนละกัน ข้อดี / จุดเด่นของเกม ทั่วไป มีตัวละครให้เลือกเล่นทั้งฝั่งผู้รอดชีวิตและฝั่งผี (ยังมีไม่มาก แต่อนาคตก็คงเพิ่มเรื่อย ๆ) แต่ละตัวละครก็จะมี Perk ติดตัวของตัวเองแตกต่างกันไป มี Perk ให้ซื้อมาใช้ (ตอนนี้ก็ยังมีไม่มากนัก) มีสกินแต่งตัว มีของประดับให้ซื้อมาใส่ มีระบบ loot box สุ่มสติ๊กเกอร์ สกินมาให้ใช้ เกมราคาแค่ 140 บาทเท่านั้น เล่นง่ายกว่าดบดล แมพเล็กไม่ซับซ้อน ตอนสวดครบ 3 จะกลายเป็นเกมต่อสู้ขึ้นมาทันที แต่อาจจะเป็น 4 รุม 1 ถ้าผีฆ่าใครไม่ตายเลย  ฝั่งผู้รอดชีวิต เป้าหมายคือสวดทำพิธีให้ครบ 3 จุด จากทั้งหมดมี 4 จุด (เสมือนปั่นไฟในดบดล) แล้วหนีออกทางประตูหรือฆ่าผีก็ได้เช่นกัน การทำพิธีต้องใช้ไอเท็ม 2 อย่างคือ 1. ธูป 2. ตะปู โดยเริ่มแรก

 Vigna เป็น vanguard สายดาเมจระดับ 4 ดาว เรียกได้ว่าเป็นเวอร์ชั่นอัพเกรดมาจาก Plume ที่เป็น 3 ดาวก็ไม่ผิด ข้อดี / จุดเด่นของตัวละคร 4 ดาวปั้นง่าย มีค่าพลังโจมตีสูง คือสูงกว่า Siege อีกในระดับเลเวลที่เท่ากัน เมื่อฆ่าศัตรูได้จะเด้ง DP +1 แต้ม ค่า DP ที่ใช้ลงสนามต่ำ และคืน DP ให้เต็มจำนวนเมื่อถอดออกจากสนาม Talent ทำให้มีโอกาส 10% ทำให้พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 100% (และ 110% ที่ PO5)  ถ้าเปิดใช้สกิลอยู่(สกิลไหนก็ได้)โอกาสจะเพิ่มเป็น 30% สกิล 2 หลอดสกิลเด้งเอง สกิลกดใช้งานเอง ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้งานจะเพิ่มพลังโจมตี +150% เป็นระยะเวลา 25 วินาที แต่จะโจมตีช้าลงนิดนึง ข้อเสีย / จุดด้อยของตัวละคร พลังป้องกันต่ำ บล็อคศัตรูได้ 1 ตัวเท่านั้น สกิล 2 ทำให้โจมตีช้าลง สรุป ถ้ายังไม่มี vanguard สายดาเมจดี ๆ ใช้ แนะนำให้ปั้นไว้ครับ ได้ใช้งานแน่นอนไม่มากก็น้อย เอามาแทน Plume ใช้ได้จนถึงด่านหลัง ๆ เลย

 Gravel เป็น specialist แบบ fast-redeploy คือใช้แต้มในการลงสนามน้อย และลงใหม่ได้ไวเพราะมี cooldown ต่ำ เหมาะกับการชะลอเกม หรือเอามาล่อสกิลของมอนให้ยิงใส่ ข้อดี / จุดเด่นของตัวละคร cooldown ในการลงใหม่แค่ 18 วินาที ใช้แต้มในการลงสนามต่ำมาก Talent: ลดแต้มในการลงสนาม 1 แต้ม, ที่ PO 5 ตัวละครที่ใช้แต้มลงสนาม 10 หรือต่ำกว่าจะได้บัฟ DEF +6% ปั้นง่ายเพราะ 4 ดาว อัพ PO ง่ายเพราะ recruit เอาได้จาก tag Fast-redeploy จากการที่ลงสนามใหม่ได้ไวจึงนำมาเป็นตัวล่อสกิลเช่น Sarkaz Caster ให้ใช้สกิลจับ โดรนทิ้งระเบิดให้ยิงใส่เธอ สกิล 2 เป็นสกิลติดตัว ที่เลเวล 7 เมื่อลงสนามจะมีโล่ป้องกันดาเมจได้ 180% ของเลือดเต็มเป็นระยะเวลา 10 วินาที ทำให้เธอลงมา tank ตัวตีหนัก ๆ เพื่อชะลอเกมลงได้ระดับนึง ข้อเสีย / จุดด้อยของตัวละคร ทำดาเมจได้ต่ำมาก ลงมารับดาเมจได้อย่างเดียว หมดระยะเวลาสกิลก็ทำอะไรต่อไม่ได้แล้ว ต้องถอนออกหรือปล่อยตายอย่างเดียว สรุป เป็นตัวที่ควรจะมีไว้ ได้ใช้แน่นอน ควรจะอัพ PO ให้ตันไปเลย แต่ระดับแค่ E1 ก็พอใช้งานได้แล้ว ส่วนตัวอัพ E2 เพราะใช้งานน้องหนักเหลือเกินจนรู้สึกผิด จึงอัพ E2 ให้