Kotenarok

    Istina ตัวละคร Supporter ระดับ 5 ดาวสายโจมตีทำ slow สายเดียวกับ Orchid, Angelina จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร โจมตีเป็นเวทย์และทำให้ติดสถานะ slow Talent - ลด DEF ตัวเอง -35%; ASPD +18 (ที่ PO5 +21) สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ลดดีเลย์การโจมตีลง(ทำให้โจมตีไวขึ้น) 1 วินาที ใช้ SP 44 ระยะเวลาสกิล 26 วินาที สกิล 2 - หลอดสกิงเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้เพิ่ม ATK +30%; เพิ่มระยะการโจมตี(ตามภาพด้านล่าง); โจมตีใส่เป้าหมายเพิ่มเติม 2 เป้าหมาย (รวมเป็น 3 เป้าหมายพร้อมกัน) ใช้ SP 50 ระยะเวลาสกิล 25 วินาที จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร DEF ต่ำมากจาก Talent ต้องไม่ให้โดนดาเมจจากศัตรูโจมตีระยะไกล ไม่งั้นมีแตก DPS ต่ำ พึ่งพาดาเมจจากนางได้ยาก สกิลทั้ง 2 ใช้ SP พอตัว สรุป เป็นตัวละครสาย slow ที่สามารถปั้นมาใช้ไปก่อนได้หากไม่มี Angelina เป็นตัวขั้นกว่า Orchid แต่ก็เปลืองวัตถุดิบในการปั้นพอสมควร อาจจะปั้นแค่ไว้ลงด่านเพชรก็พอ

    Jaye ตัวละคร Specialist ระดับ 4 ดาวสายกิน DP เพื่อยืนเลนคนเดียว เป็นตัวละครที่มีอรรถประโยชน์มาก โดยเฉพาะในโหมด Integrated Strategies (IS) จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ระยะเวลา Redeploy ลดลงเหลือ 25 วินาที (จากปกติ 70 วินาที) DP ที่ใช้ลงสนามต่ำ เพิ่มโจมตี 145% (PO 5 เพิ่มเป็น 150%) เมื่อโจมตีศัตรูประเภท Infected สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้อัตโนมัติ ที่เลเวล 7 เพิ่มโจมตี +45% ไบ้ศัตรูที่ถูกโจมตี 1 วินาที ระยะเวลาสกิลอยู่ตลอดเกม ใช้ SP 6 สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้อัตโนมัติ ที่เลเวล 7 เพิ่มโจมตี +40% ทุกการโจมตีจะฮีลให้เพื่อนในระยะ 8 ช่องรอบตัวหรือตัวเองเท่ากับ 40% ของดาเมจที่ทำได้ ระยะเวลาสกิลอยู่ตลอดเกม ใช้ SP 11 สกิลนี้ทำให้ยืนเลนตัวเดียวได้ และยืนชนตัวใหญ่ได้ด้วย ทั้ง 2 สกิลใช้ SP ต่ำและอยู่ได้ตลอดเกม จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร ไม่คืน DP ให้เมื่อถอดออกจากสนาม ดูด DP 3 หน่วย (ถ้าใส่โมดูลจะเหลือ 2) ทุก ๆ 3 วินาที ถ้าไม่เหลือ DP ให้ดูดจะถอดตัวเองออกจากสนามอัตโนมัติ ใช้งานได้ยากมากหากเจอสถานะของด่านที่ลดจำนวน DP ที่เด้ง [ข้อควรระวัง] สกิล 2 - ฮีลตามดาเมจที่ทำได้ หา

        Mizuki ตัวละคร Specialist ระดับ 6 ดาวสายโจมตีหมู่แบบเดียวกับ Manticore , Ethan   จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร โจมตีรอบตัวและด้านหน้า 2 ช่องโดนศัตรูทุกตัวในระยะโจมตี มีโอกาส 50% ที่จะหลบหลีกการโจมตีได้ (ทั้งกายภาพและเวทย์) มักจะไม่ตกเป็นเป้าหมายของศัตรู (แต่หากยืนอยู่ตัวเดียวก็โดนตัวยิงไกลสอยอยู่ดี) Talent 1 - ทำดาเมจเพิ่มเติมเป็นเวทย์ใส่เป้าหมาย 1 ตัวที่มีเลือดน้อยที่สุด คิดเป็น 50% ของ ATK Talent 2 - ถ้ามีศัตรูที่เลือดต่ำกว่า 50% อยู่ในระยะโจมตี จะบัฟ ATK +10% สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง สกิลออกเองอัตโนมัติ ที่เลเวล 7 ทำให้โจมตีครั้งถัดไปแรงขึ้น 230% เป็นกายภาพ เพิ่มความแรงของ Talent 1 อีก 2.3 เท่า ใช้ SP 8 สามารถเก็บชาร์จได้ 2 ชาร์จ (จะเก็บได้ 3 เมื่อขึ้น M1) สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 จะโจมตีเร็วขึ้น 1.2 วินาที, โจมตีแรงขึ้น +20%, Talent 1 ส่งผลต่อเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 2 และ 2 เป้าหมายนั้นจะติดสถานะตรึง 1 วินาที; ใช้ SP 19; ระยะเวลา 19 วินาที เป็นสกิลที่นิยมกันมากที่สุด เพราะพึ่งพาได้มากที่สุดในหลายสถานการณ์ สกิล 3 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ เพิ่มระยะขึ

       Swire ตัวละคร Guard ระดับ 5 ดาวสาย Instructor (เน้นบัฟเพื่อนในทีม)  จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร โจมตี 2 ช่องด้านหน้าตัวเอง เมื่อโจมตีศัตรูที่นางไม่ได้บล็อคจะบัฟโจมตีเพิ่มขึ้น 120% (เพิ่มเป็น 130% เมื่อใช้ module) ค่า DEF ค่อนข้างสูง Talent - เพิ่มพลังโจมตีให้เพื่อนโจมตีระยะประชิดที่ยืนอยู่รอบตัวนาง 8 ช่อง +10% (+12% เมื่อ PO5) สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เพิ่มระยะของ Talent ขึ้น (ตามภาพด้านล่าง) และทำให้ผลของ Talent แรงขึ้น 2 เท่า ระยะเวลาสกิล 27 วินาที ใช้ SP 50 สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเมื่อทำการโจมตี เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 ATK +50%; Talent แรงขึ้น 2.7 เท่า ระยะเวลาสกิล 21 วินาที ใช้ SP 50 จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร ทั้ง 2 สกิลใช้ SP สูงมากที่ 50 หน่วย แล้วยิ่งสกิล 2 ลอดสกิลเด้งเฉพาะเวลาทำการโจมตีทำให้สกิลยิ่งออกยากไปอีก Talent มีผลกับตัวระยะประชิดเท่านั้น ทำให้ในด่านที่มีพื้นที่ยืนล่างจำกัดจะใช้งานนางได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ สรุป ไม่น่าปั้นมาใช้งานเท่าไหร่ เอาวัตถุดิบไปปั้นตัวเก่ง ๆ มาใช้งานเลยคุ้มกว่า อาจเหมาะกับคนที่ชอบเล่นทีมแปลก ๆ ส่วนตัวอัพมาแค่ลงด่านเพชร

      Matterhorn ตัวละคร Defender ระดับ 4 ดาวที่โดดเด่นในพลังป้องกันเวทย์ที่สูง เน้นเอามาแท้งค์ดาเมจเวทย์เป็นหลัก จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร มี HP และ DEF ค่อนข้างดี Talent - เพิ่ม RES +15 ทำให้มีค่าป้องกันเวทย์สูง (รวมเบ็ดเสร็จ RES 20) สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เพิ่ม Max HP +40%; เด้งเลือดตัวเอง 30 หน่วยต่อวินาที ระยะเวลาสกิล 27 วินาที ใช้ SP 39 (ค่อนข้างสูง) เหมาะกับเป็นสกิลที่ใช้เพื่อฮีลตัวเองในภารกิจที่ไม่สามารถใช้ตัวฮีลได้ สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เพิ่ม Max HP +40%; DEF +15%; RES +70% ระยะเวลา 27 วินาที ใช้ SP 44 (ค่อนข้างสูง) เป็นสกิลที่บัฟให้ถึกขึ้นมาก ๆ โดยเฉพาะกับเวทย์  จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร ไม่มีสกิลบัฟเพื่อลดดาเมจกายภาพเจ๋ง ๆ เลย ทำให้ไม่เหมาะกับเจอศัตรูที่โจมตีกายภาพหนัก ๆ Defender สายฮีลส่วนมากก็สามารถแท้งค์ศัตรูสายเวทย์ได้ด้วยการฮีลสู้ แถมยังฮีลเพื่อนได้ด้วย ทำให้ Matterhorn ดูจืดจางลงไปอีก สรุป เป็นตัวละครที่แนะนำว่าถ้าจะปั้น เอาแค่ลงด่านเพชรได้ก็พอ ไม่ได้มีความโดดเด่นมากพอจนต้องปั้นขึ้นมาใช้งานเป็นตัวหลักเลย

     Pramanix ตัวละคร Supporter ระดับ 5 ดาวสายดีบัฟ เน้นใช้สกิลดีบัฟใส่ศัตรูให้เพื่อนร่วมทีมจัดการ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร โจมตีเวทย์ ระยะโจมตีกว้างกว่า Supporter ทั่วไปมาก ใช้แต้ม DP น้อยในการลงสนาม เลือดและ RES สูงกว่า Supporter ทั่วไป Talent 1 - ทำให้ศัตรูที่เหลือเลือดต่ำกว่า 40% ในระยะโจมตีติดสถานะ Fragile (โดนดาเมจแรงขึ้น) 30% (เพิ่มเป็น 33% ที่ PO5)  Talent 2 - โจมตีศัตรูพร้อมกัน 2 เป้าหมาย สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 โจมตีใส่ศัตรูพร้อมกัน 2 เป้าหมาย (ไม่ stack กับ Talent 2) ศัตรูทุกตัวในระยะโจมตีความเร็วโจมตีลดลง -50 หน่วย ระยะเวลาสกิล 16 วินาที สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 ทำให้ศัตรูในระยะทุกตัว DEF -45% และ RES -26% ระยะเวลาสกิล 18 วินาที เป็นสกิลที่นิยมใช้หากเล่นตัวละครนี้ เน้นดีบัฟลดป้องกันให้ตัวดาเมจยัดดาเมจได้แรงขึ้น จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร 5 ดาวค่อนข้างปั้นยาก พลังโจมตีต่ำกว่า Supporter ทั่วไป สกิล 1 และ Talent 2 ไม่ stack กัน ยังไงก็โจมตีได้สูงสุด 2 ตัว ทำให้สกิลนี้ได้ประโยชน์ไม่เต็มที่ สกิล 2 ไม่เหมาะที่จะนำไปใช้กับศัตรูท

    Plume ตัวละคร Vanguard ระดับ 3 ดาวสายโจมตี ฆ่าศัตรูแล้วเด้ง DP 1 สำหรับมือใหม่ เป็นอีกตัวที่นิยามของคำว่ามีอะไรให้ใช้ไปก่อน จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร 3 ดาวปั้นง่าย ทำดาเมจได้ดี ใช้ DP น้อยในการลงสนาม Trait - เด้ง DP 1 เมื่อจัดการศัตรู, คืน DP ทั้งหมดเมื่อถอดออกจากสนาม Talent - เพิ่มโจมตี 8% สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เพิ่มพลังโจมตี +25% และความเร็วโจมตี +25 หน่วย ระยะเวลาสกิล 25 วินาที จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร บล็อคได้แค่ 1 DP เด้งเฉพาะเมื่อจัดการศัตรูได้ ตัวบาง อัพได้แค่ E1 เลเวล 55 ในเกมหลัง ๆ จะเริ่มใช้งานไม่ได้ เพราะมอนโหดเกินไป สรุป เป็นตัวละครที่ให้ปั้นมาใช้งานไปก่อนจนกว่าจะมีตัวที่ดีกว่ามาใช้ เป็นตัวที่เน้นลงในด่านที่เล่นเกมเร็ว มอนเกิดไว(ส่วนมากจะเป็นมอนตัวบาง นางเคลียร์ทันในด่านแรก ๆ)

   Vanilla ตัวละคร Vanguard ระดับ 3 ดาว สำหรับมือใหม่ เป็นนิยามของคำว่ามีอะไรให้ใช้ไปก่อน จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร 3 ดาวปั้นง่าย บล็อค 2 Talent - เพิ่มโจมตี 8% สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เด้ง DP 6 หน่วย และบัฟโจมตี +35% เวลา 10 วินาที ทำดาเมจได้ดีในระดับนึง เมื่อเทียบกับ Vanguard ระดับเดียวกัน จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร ตันแค่เลเวล 55 E1 เท่านั้น พลังป้องกันต่ำเมื่อเทียบกับ Vanguard บล็อคระดับเดียวกัน สกิล 1 เด้ง DP ได้น้อยมาก ๆ สรุป เป็นตัวละครที่ให้ปั้นมาใช้งานไปก่อนจนกว่าจะมีตัวที่ดีกว่ามาใช้ เน้นไปใช้เป็น Vanguard รองในการช่วยทำดาเมจได้

          Blemishine ตัวละคร Defender ระดับ 6 ดาว นางถูกจัดอยู่ในหมวด Defender สายฮีล (Guardian Defender)  จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร โจมตีด้านหน้าตัวเอง 1 ช่อง เป็น Defender สายฮีลที่ทำดาเมจได้สูงที่สุด (สูงกว่า Hoshiguma ด้วย) Talent 1 - เมื่ออยู่ในสนามจะทำให้เพื่อนในสนามที่หลอดสกิลเด้งเมื่อถูกโจมตี ได้รับ 1 SP จากการโจมตีใส่ศัตรูด้วย Talent นี้ทำให้สกิล 2 และ 3 ของเธอหลอดสกิลเด้งจากทั้งถูกโจมตีและโจมตีใส่ศัตรู Talent 2 - เธอสามารถโจมตีใส่ศัตรูที่ติดสถานะหลับได้ และเพิ่มพลังโจมตีขึ้น 140% เมื่อโจมตีใส่ศัตรูที่อยู่ในสถานะหลับ (โดยปกติเราจะไม่สามารถโจมตีหรือใช้สกิลใส่ศัตรูที่อยู่ในสถานะหลับได้ จะเหมือนศัตรูนั้นเป็นอมตะ ไม่สามารถเล็งเป้าได้จนกว่าจะตื่น) สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง สกิลใช้เองอัตโนมัติ ที่เลเวล 7 ทำให้การโจมตีครั้งถัดไปทำดาเมจ 220% เป็นกายภาพ และฮีลให้เพื่อนทุกคนที่อยู่รอบตัว (3x3 ช่อง) ด้วยความแรง 120% ของพลังโจมตี สามารถเก็บชาร์จได้ 2 ชาร์จ สกิล 2 - หลอดสกิงเด้งเมื่อถูกโจมตี เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เพิ่มพลังโจมตี +70% และทำให้ศัตรูบนพื้นที่อยู่ในตำแหน่งช่องเดียวกับเธอ(รวม

         Platinum ตัวละคร Sniper ระดับ 5 ดาวที่มีสกิล 2 บัฟดาเมจและยิงไกลได้เทียบเท่ากับ Sniper AoE เลย จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร โฟกัสยิงตัวบินก่อน Talent - ยิ่งโจมตีช้ายิ่งแรงโดยช้าสุดคือ 2.5 วินาที ทำดาเมจเพิ่มขึ้นเป็น 180%  จะเกิดเมื่อติดดีบัฟทำให้ตีช้าจากมอน สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง สกิลใช้เองอัตโนมัติ ระยะเวลาสกิลอยู่ตลอดเกม ที่เลเวล 7 เมื่อสกิลติดจะโดนตีช้าลงเล็กน้อย, ATK +70%; ระยะโจมตีเพิ่มขึ้นมาอีก 1 แถว โจมตีเท่า Sniper AoE ใช้แต้ม 63 หน่วย  จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร 5 ดาวปั้นค่อนข้างยาก สกิล 2 หลอดสกิลขึ้นช้ามาก สรุป เป็น Sniper ที่พึ่งพาได้มาก หากคุณไม่มีตัวเมต้าใช้สามารถใช้ตัวนี้แทนได้ ซึ่งในบางสถานการณ์ยังใช้ได้ดีกว่าตัวเมต้าด้วยซ้ำ

        Gummy ตัวละคร Defender สายฮีลระดับ 4 ดาว เป็นตัวละครตั้งต้นสำหรับมือใหม่ เมื่อเล่นไปถึงจุดนึงจะต้องมีตัวยืนเลนที่ฮีลตัวเองได้ ซึ่งน้องเป็นตัวละครที่ตอบโจทย์อย่างดี จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร 4 ดาวปั้นง่าย มีค่า HP สูง มีขายใน Starter pack Talent - เมื่อโจมตีมีโอกาส 15% (PO5 เพิ่มเป็น 18%) จะทำดาเมจ 200% และติดสตั๊น 1 วินาที สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง สกิลใช้เองอัตโนมัติ ที่เลเวล 7 ฮีลให้เพื่อนในระยะรอบตัว 3x3 หรือตัวเอง 130% ของพลังโจมตี สามารถเก็บชาร์จได้ 2 ชาร์จ โดยจะฮีลทันทีที่เลือดลด ที่ M3 จะเก็บได้ 3 ชาร์จ สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ สกิลนี้จะแบ่งเป็น 2 ช่วง โดยที่เลเวล 7 ช่วงแรกจะหยุดโจมตี 10 วินาทีเพื่อยืนทำอาหาร ช่วงนี้ DEF +70%, ช่วงที่ 2 ระยะเวลา 20 วินาที จะเริ่มโฟกัสการฮีลพวกพ้องในระยะ 3x3 รอบตัว ช่วงนี้ได้ ATK +50% รวมระยะเวลาสกิลทั้งหมด 30 วินาที จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร ค่า DEF ต่ำ Talent มีโอกาสติดค่อนข้างต่ำ สกิล 1 ไม่สนระดับเลือด ลดเท่าไหร่ก็ฮ๊ลทันที ทำให้บางสถานการณ์อาจสุ่มเสี่ยงที่จะพลาดฮีลไม่ทัน สกิล 2 ใช้งานยากเนื่องด้วยต้องรอถึง 10 วินาทีกว่าจ

       Sora ตัวละคร Supporter ระดับ 5 ดาว เป็นนักเต้นที่ช่วยบัฟและเด้งเลือดให้ทีมได้ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ใช้แต้ม DP น้อยมาก เริ่มต้นใช้เพียง 7 ถ้า PO 6 จะเหลือแค่ 5 Trait - เด้งเลือดให้เพื่อนต่อวินาทีเท่ากับ 10% ของพลังโจมตี Talent - มีโอกาส 50% เมื่อสกิลหมดเวลาจะคืน SP มาให้นางครึ่งนึง  สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ใช้ 60 แต้ม ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ เพิ่มระยะโจมตี, ศัตรูในรัศมีติดสถานะหลับไหล, และบัฟเด้งเลือดเพิ่มเป็น 70% แทน ระยะเวลา 7 วินาที สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ใช้แต้ม 45 แต้ม บัฟ "Inspiration" (เป็นบัฟเพิ่มค่า stat ตั้งต้นของตัวละคร) บัฟที่ได้คิดเป็น 90% ของพลังโจมตีของนาง ระยะเวลาสกิล 20 วินาที จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร ไม่สามารถโจมตีได้ เต้นอย่างเดียว ตัวบางมาก ต่ำทั้งเลือดและ DEF อีกทั้งไม่มีค่า RES ที่ไว้กันเวทย์เลย บัฟ "Inspiration" ไม่มีผลกับตัวเอง สกิล 1 ใช้ SP สูงพอควร สรุป โดยรวมคิดว่าใช้งานยาก สกิลไม่ได้มีความหวือหวาอะไร เก็บไปอัพให้ Skalter (Skadi the Corrupting Heart) จะเห็นผลกว่ามาก ๆ (แต่เป็นตัวลิมิตหายาก) ส่วนตั

     Midnight ตัวละคร Guard ตีไกลระดับ 3 ดาวที่ผู้เล่นใหม่ควรจะมีไว้หากไม่มีตัวละคร Guard ตีไกลที่สามารถตีเวทย์ได้ด้วย เป็นตัวที่ใช้แทน Lappland จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร 3 ดาวปั้นง่าย Trait - โจมตีไกลด้วยดาเมจ 80% Talent - เมื่อโจมตีมีโอกาส 20% ติดคริทำดาเมจเพิ่มขึ้น 150% (PO 5 จะเป็น 160%) สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ใช้ 70 แต้ม ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้เพิ่มโจมตีให้ตัวเอง +35% และเปลี่ยนดาเมจเป็นเวทย์ จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร 3 ดาว อัพขึ้น E2 ไม่ได้ สรุป เหมาะกับมือใหม่ที่ไม่มี Guard ตีไกลอย่างมาก โดยเฉพาะที่โจมตีเวทย์ได้ จะมีบางด่านที่จำเป็นต้องหยิบมาใช้ ให้ถึงตอนนั้นค่อยปั้นมาใช้ก็ได้

       Catapult ตัวละคร Sniper โจมตีหมู่ระดับ 3 ดาวที่ผู้เล่นใหม่ควรจะมีไว้หากไม่มีตัวละคร Sniper AoE ตัวอื่นให้ใช้งาน เป็นตัวที่ใช้แทน Shirayuki ไปก่อนจนกว่าจะมี จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ระยะยิงไกล, ยิงเป็น AoE ปั้นง่ายมาก Talent - ลด DP ลง -1 สกิล 1 - ใช้ 45 แต้มเพิ่มระยะกระจายของ AoE ขึ้น 200% ระยะเวลาสกิล 30 วินาที  สกิลนี้ทำให้ทำดาเมจใส่ศัตรูจำนวนมากขึ้น จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร 3 ดาว อัพขึ้น E2 ไม่ได้ ใช้แต้ม DP ลงเยอะกว่า Sniper ทั่วไป (เป็นปกติของสาย AoE) แต่ยังน้อยถ้าเทียบกับ Sniper AoE ตัวอื่น สกิล 1 ไม่มีบัฟเพิ่มดาเมจ เพิ่มแต่ระยะโจมตีเท่านั้น โจมตีช้า สรุป หากไม่มีตัว Sniper AoE ตัวอื่นไว้ใช้งาน แนะนำให้ปั้นไว้เมื่อมีโอกาส เล่นไปถึงจุดนึงจะเริ่มรู้สึกว่ามีด่านที่เคลียร์มอนไม่ทัน ต้องใช้ AoE เข้ามาเสริม

      Tomimi ตัวละคร Caster โจมตีเดี่ยวระดับ 5 ดาวที่งัดคทามาฟาดศัตรู เป็นตัวละครฟรีที่ได้จากกิจกรรม Gavial The Great Chief Returns จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ได้ฟรีจากกิจกรรม Gavial The Great Chief Returns ปั้น PO 6 ได้ง่าย โจมตีปกติเป็นเวทย์ Talent - เมื่อกดใช้สกิล(สกิลใดก็ได้) ระยะโจมตีจะลดลง (เหลือดังภาพ) เปลี่ยนโจมตีเป็นกายภาพและโจมตีได้เฉพาะเป้าหมายบนพื้นดิน(เพราะหยิบคทามาฟาดแทนยิงเวทย์) พลังโจมตีเพิ่มขึ้น +100% (เพิ่มเป็น 120% ที่ PO 5) สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้เพิ่ม ASPD +60 ระยะเวลาสกิล 30 วินาที สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ทุกการโจมตีจะมีโอกาส 70% สุ่ม effect ออกมา 1 อย่างจาก 3 อย่างต่อไปนี้: stun 1.2 วินาที, โจมตีติดคริดาเมจ 190%, หรือโจมตีเป็น AoE (ซึ่ง AoE ก็ไม่อธิบายระยะ) ที่ M3 โอกาสจะเพิ่มเป็น 100%; stun 1.6 วินาที, คริดาเมจ 220% จุดด้อย / ข้อเสีย ได้จากกิจกรรมเท่านั้น หากมาไม่ทันก็ต้องรอรีรันไป สกิลทำให้โจมตีได้แต่พื้นดิน เป็นกายภาพ อีกทั้งระยะโจมตีเหลือแค่ระยะประชิด ทำให้นำไปใช้งานได้ยากมาก สกิล 2 RNG